tag:blogger.com,1999:blog-74379899948645344772024-03-14T01:19:22.941-07:00อินเทอร์เน็ตและการใช้งานsirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.comBlogger9125tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-72829819039902087292011-09-14T22:20:00.000-07:002011-09-14T22:20:42.591-07:00สมาชิกในกลุ่ม1 ด.ช.สิรวิชญ์ สุขศิลา<br />
2 ด.ช.ปิยะพงษ์ บุญเสน<br />
3 ด.ช.อัฐพล อินทรภักดี<br />
4 ด.ช.วิศิษ ทิพย์กองลาศ<br />
5 ด.ช.สุทธิรัก ไชยรัตน์<br />
6 ด.ญ.สุภาวดี ทรัพย์วัฒนวงศ์<br />
7 ด.ญ.กมลณัฐ ศรีวุ่น<br />
8 ด.ญ.ไอรีน เจียงเกียรติชงsirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-29442833527283551762011-09-14T22:04:00.000-07:002011-09-14T22:04:57.565-07:00คำถามประจำหน่วยการเรียนรู้1.หลักการเครือข่ายแบบแพ็กเก็ตสวิตชิง คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรในการสื่อสารข้อมูล<br />
ตอบ ข้อมูลจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆหรือแพ็กเก็ตและส่งไปยังปลายทาง. ประโยชน์คือการส่งข้อมูลของหน่วยงานสามารถส่งได้มากกว่าหนึ่งเส้นทาง<br />
2.เพราะเหตุใดจึงมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้หมายเลขไอพีมาเป็นดีเอ็นเอส<br />
ตอบ. เพราะหมายเลขไอพีจดจำยากและสับสนจึงเปลี่ยนมาเป็นแบบดีเอ็นเอสที่จดจำได้ง่าย<br />
3.รูปแบบของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์แอดเดรสประกอบด้วยกี่ส่วนอะไรบ้างจงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง<br />
ตอบ. 2ส่วนคือชื่อผู้ใช้และชื่อเครื่องบริการ ยกตัวอย่างเช่น sirawitgod@hotmail.com<br />
4.เทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงข่าวสารข้อมูลมีอะไรบ้างจงอธิบาย<br />
ตอบ. เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์สนทนาหรือสื่อสารซึ่งกันและกัน<br />
5.จงบอกมารยาท ระเบียบ บังคับในการใช้อินเตอร์เน็ตที่นักเรียนพึงปฏิบัติมาอย่างละ5ข้อ<br />
ตอบ. 1ต้องไม่ใช่คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ<br />
2ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน<br />
3ต้องไม่ใช่คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร<br />
4ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน<br />
5ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่นก่อนได้รักอนุญาตsirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-7941048674794402072011-09-14T05:41:00.000-07:002011-09-14T06:02:09.421-07:00มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0pt; margin-left: 0cm; margin-right: 0cm; margin-top: 0cm;"> มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต<br />
1.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น<br />
2.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนการทำงานของผู้อื่่น<br />
3.ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต<br />
4.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร<br />
5.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ<br />
6.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์คัดลอกหรือใช้โปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต<br />
7.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์<br />
8.ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน<br />
9.ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน<br />
10.ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎ ระเบียบ กติกา และมีมารยาทของหน่วยงาน สถาบัน หรือสังคมนั้นๆ</div>sirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-31289138689765036932011-09-14T05:34:00.000-07:002011-09-14T05:34:24.432-07:00คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต 1.ผลกระทบทางบวก<br />
อินเทอร์เน็ตมีผลกระทบทางบวกต่อสังคม ดังนี้<br />
1)ทำให้มีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารในเครือข่ายขนาดใหญ่ กล่าวคือ ทำให้คนในสังคมติดต่อสื่อสารได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา <br />
2)ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน<br />
3)ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา<br />
2.ผลกระทบทางลบ<br />
อินเทอร์เน็ตมีผลกระทบทางลบต่อสังคม ดังนี้<br />
1)ก่อให้เกิดความเครียดของคนในสังคม<br />
2)เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากสังคมหนึ่งไปสู่อีกสังคมหนึ่ง<br />
3)เกิดช่องว่างระหว่างคนในสังคม<br />
4)เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล<br />
5)อาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์sirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-30439444791262951042011-09-14T05:01:00.001-07:002011-09-14T05:01:21.390-07:00ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต 1.1 ความหมายของอินเทอร์เน็ต<br />
อินเทอร์เน็ต หมายถึง เครือข่ายของเครือข่าย หรือก็คือ การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย ทำให้เกิดเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่โยงใยกันทั่วโลก โดยเครือข่ายดังกล่าวจะต้องมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเเบบเดียวกัน แม้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อภายในเครือข่ายดังกล่าวอาจจะต่างชนิดหรือต่างขนาดกัน ก็สามารถสื่อสารกันได้ และคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องภายในเครือข่ายสามารถรับและส่งข้อมูลในรูปแบบต่างๆได้หลายรูปแบบ เช่น ตัวอักษร ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว เสียง เป็นต้น<br />
1.2 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต<br />
การศึกษาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสิ่งใดสิ่งหนึ่งช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้จากอดีตเพื่อเป็นบทเรียนสำหรับปัจจุบัน การศึกษาความเป็นมาของอินเทอร์เน็ตก็เช่นเดียวกัน เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสื่อสาร ประโยชน์ และแนวโน้มของเทคโนโลยีในอนาคต<br />
1)อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ ปี ค.ศ.1969 หน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูง ของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สนับสนุนงานวิจัยเทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยในช่วงแรกรู้จักกันในนามของ เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูง หรืออาร์พาเน็ต<br />
อาร์พาเน็ตแบ่งออกเป็น 2 เครือข่าย คือ เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงและเครือข่ายของกองทัพ โดยในช่วงต้นเครือข่ายทั้งสองเป็นเครือข่ายหลักที่สำคัญในทวีปอเมริกาเหนือ ต่อมาหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจำนวนมากเล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอาร์พาเน็ต จึงมีการนำเครือข่ายของหน่วยงานเชื่อมต่อกับอาร์พาเน็ต และทำให้เกิดการขยายเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1984 เครือข่ายนี้ถูกเรียกว่า อินเทอร์เน็ตและใช้มาจนถึงปัจจุบัน<br />
2)อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี พ.ศ.2530 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ได้เชื่อมต่อเครื่องมินิคอมพิวเตอข้อมูลมหาวิทยาลัย และสถาบันไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียโดยเป็นการเชื่อมต่่อโดยผ่านสายโทรศัพท์ส่งข้อมูลได้ช้าและเป็นการเชื่อมต่อแบบชั่วคราว<br />
ปีี พ.ศ.2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติได้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 5 แห่ง เกิดเป็นเครือข่ายไทยสาร<br />
ปี พ.ศ.2537 การสื่อสารแห่งประเทศไทยร่วมมือกับบริษัทเอกชน เปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่บุคคล เรียกว่า ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตsirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-49374451804093821362011-09-07T20:18:00.000-07:002011-09-13T04:41:50.926-07:00การใช้บริการต่างๆบนอินเทอร์เน็ต บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต<br />
1. เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW)<br />
เวิลด์ไวด์เว็บ หรือเครือข่ายใยแมงมุม เหตุที่เรียกชื่อนี้เพราะว่าเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงข้อมูล จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเรื่อยๆ เวิลด์ไวด์เว็บ เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการเรียกดูเว็บไซต์ต้องอาศัยโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ในการดูข้อมูล เว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น โปรแกรม Internet Explorer (IE) , Netscape Navigator<br />
<br />
2 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail)<br />
การติดต่อสื่อสารโดยใช้อีเมลสามารถทำได้โดยสะดวก และประหยัดเวลา หลักการทำงานของอีเมลก็คล้ายกับการส่งจดหมายธรรมดา นั้นคือ จะต้องมีที่อยู่ที่ระบุชัดเจน ก็คือ อีเมลแอดเดรส (E-mail address)<br />
องค์ประกอบของ e-mail address ประกอบด้วย<br />
1. ชื่อผู้ใช้ (User name)<br />
2. ชื่อโดเมน<br />
Username@domain_name<br />
การใช้งานอีเมล สามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ<br />
1. Corporate e-mail คือ อีเมล ที่หน่วยงานต่างๆสร้างขึ้นให้กับพนักงานหรือบุคลากรในองค์กรนั้น เช่น u47202000@dusit.ac.th คือ e-mail ของนักศึกษาของสถาบันราชภัฏสวนดุสิต เป็นต้น<br />
2. Free e-mail คือ อีเมล ที่สามารถสมัครได้ฟรีตาม web mail ต่างๆ เช่น<br />
Hotmail, Yahoo Mail, Thai Mail และ Chaiyo Mail<br />
3. บริการโอนย้ายไฟล์ (File Transfer Protocol)<br />
เป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายไฟล์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การโอนย้ายไฟล์สามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ<br />
1. การดาวน์โหลดไฟล์ (Download File )<br />
การดาวน์โหลดไฟล์ คือ การรับข้อมูลเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ในปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่จัดให้มีการดาวน์โหลดโปรแกรมได้ฟรีเช่น www.download.com<br />
2. การอัพโหลดไฟล์ (Upload File)<br />
การอัพโหลดไฟล์คือการนำไฟล์ข้อมูลจากเครื่องของผู้ใช้ไปเก็บไว้ในเครื่องที่ให้บริการ (Server) ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น กรณีที่ทำการสร้างเว็บไซต์ จะมีการอัพโหลดไฟล์ไปเก็บไว้ในเครื่องบริการเว็บไซต์ (Web server ) ที่เราขอใช้บริการพื้นที่ (web server) โปรแกรมที่ช่วยในการอัพโหลดไฟล์เช่น FTP Commander<br />
4 บริการสนทนาบนอินเทอร์เน็ต (Instant Message)<br />
การสนทนาบนอินเทอร์เน็ตคือ การส่งข้อความถึงกันโดยทันทีทันใด นอกจากนี้ยังสามารถส่งสัญลักษณ์ต่างๆ อาทิ รูปภาพ ไฟล์ข้อมูลได้ด้วย การสนทนาบนอินเทอร์เน็ตเป็นโปรแกรมที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โปรแกรมประเภทนี้ เช่น โปรแกรม ICQ (I seek you) MSN Messenger, Yahoo Messenger เป็นต้น <br />
5 บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต<br />
1. Web directory คือ การค้นหาโดยการเลือก Directory ที่จัดเตรียมและแยกหมวดหมู่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว website ที่ให้บริการ web directory เช่น www.yahoo.com, www.sanook.com<br />
2. Search Engine คือ การค้นหาข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Search โดยการเอาคำที่เราต้องการค้นหาไปเทียบกับเว็บไซต์ต่างๆ ว่ามีเว็บไซต์ใดบ้างที่มีคำที่เราต้องการค้นหา<br />
website ที่ให้บริการ search engine เช่น www.yahoo.com, www.sanook.com, www.google.co.th, www.sansarn.com<br />
3. Metasearch คือ การค้นหาข้อมูลแบบ Search engine แต่จะทำการส่งคำที่ต้องการไปค้นหาในเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลอื่นๆ อีก ถ้าข้อมูลที่ได้มีซ้ำกัน ก็จะแสดงเพียงรายการเดียว เว็บไซต์ที่ให้บริการ Metasearch เช่น www.search.com, www.thaifind.com<br />
6 บริการกระดานข่าวหรือ เวบบอร์ด (Web board)<br />
เว็บบอร์ด เป็นศูนย์กลางในการแสดงความคิดเห็น มีการตั้งกระทู้ ถาม-ตอบ ในหัวข้อที่สนใจ เว็บบอร์ดของไทยที่เป็นที่นิยมและมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย คือ เว็บบอร์ดของพันธ์ทิพย์ (www.pantip.com)<br />
7. ห้องสนทนา (Chat Room)<br />
ห้องสนทนา คือ การสนทนาออนไลน์อีกประเภทหนึ่ง ที่มีการส่งข้อความสั้นๆ ถึงกัน การเข้าไปสนทนาจำเป็นต้องเข้าไปในเว็บไซต์ที่ให้บริการห้องสนทนาเช่น www.sanook.com www.pantip.comsirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-415927403596188012011-09-07T18:22:00.001-07:002011-09-13T04:38:17.653-07:00การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตการเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ต<br />
การเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ต<br />
เมื่อท่านต้องการเข้าใช้บริการต่าง ๆในอินเตอร์เน็ตนั้นท่านจำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งการเชื่อมต่อที่นิยมกันมีอยู่สามประเภทดังนี้<br />
เชื่อมต่อกันโดยตรง(Direct conection)<br />
เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์แบบ Dialup IP<br />
เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์แบบ Terminal Emulation<br />
เชื่อมต่อกันโดยตรง(Direct conection)<br />
<br />
วิธีการเชื่อมต่อแบบนี้เป็นวิธีที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด แต่เป็นวิธีที่เสียค่าใช้จ่ายแพงที่สุด ดังนั้นจึงเหมาะกับหน่วยงานขนาดใหญ่เพราะมีงบประมาณมากพอ การเชื่อมต่อแบบนี้เป็นการเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตโดยตรงไม่ผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ หรือ เครือข่ายอืน และเป็นการเชื่อมต่อตลอดเวลาคือ ตลอด 24 ชั่วโมง และ ทุกวัน จะใช้อินเตอร์เน็ตหรือไม่ใช้ก็จะเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ ทางหน่วยงานที่ต้องการใช้วิธีเชื่อมต่อแบบนี้ต้องจัดหาได้แก่<br />
สายสัญญาณสื่อกลางอาจเป็นสายเช่าพิเศษ เช่น Leased Line, ISDN เป็นต้น<br />
อุปกรณ์เชื่อมต่อเข้ากับสายสัญญาณสื่อกลาง อุปกรณ์ที่ว่านี้คือ Router ซึ่งทำหน้าที่เป็น Gateway สู่อินเตอร์เน็ต <br />
การเชื่อมต่อทำได้โดยใช้อุปกรณ์ Routerทำการเชื่อมคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานหรือ เน็ตเวิร์กของหน่วยงานเข้ากับสายสัญญาณสื่อกลาง สำหรับสายสัญญาณสื่อกลางนี้จะต่อไป ยังหน่วยงานผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือ Internet Service Provider (ISP) เนื่องจากว่า ISP มีวงจรที่เชื่อมต่อไปยังอินเตอร์เน็ต ดังนั้นเมื่อเชื่อมต่อแล้วคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเน็ตเวิร์ก ของหน่วยงานนั้น ก็จะสามารถติดต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา<br />
เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์แบบ Dialup IP<br />
การเชื่อมต่อวิธีนี้เป็นการเชื่อมต่อแบบไม่ตลอดเวลา เมื่อไรที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตก็ค่อยทำการ เชื่อมต่อ และเมื่อเลือกใช้ก็ค่อยยกเลิกการเชื่อมต่อ วิธีนี้เหมาะกับหน่วยงานที่ไม่มีงบประมาณพอ ที่จะใช้วิธีแรกหรือหน่วยงานขนาดเล็ก หรือบุคคลทั่วไปอาจใช้วิธีนี้เพราะว่าเสียค่าใช้จ่ายไม่แพง<br />
การเชื่อมต่อวิธีนี้ใช้ผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์คือเมื่อไรที่ต้องการใช้อินเตอร์ก็ให้หมุนโทรศัพท์ติดต่อไป สิ่งแรกที่ท่านที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตวิธีนี้ต้องทำคือ ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกของหน่วยงานผู้ให้บริการ อินเตอร์เน็ต หรือ ISP(Internet service provider) เจ้าใดเจ้าหนึ่ง เมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้ว ทางISP จะให้ชื่อผู้ใช้(user account) และรหัสผ่าน(password) พร้อมทั้งเบอร์โทรศํพท์สำหรับติดต่อใช้อิน เตอร์เน็ต เบอร์โทรศัพท์ที่ว่านี้บางทีอาจมีเป็นร้อยเบอร์ หรือพันเบอร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าISPมีสมาชิก มากน้อยเท่าไร<br />
เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์แบบ Terminal Emulation<br />
- การเชื่อมต่อวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายถูกที่สุด ลักษณะการเชื่อมต่อเหมือนกับวิธีที่สอง คือผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ มีข้อแตกต่างจากวิธีที่สองอยู่ตรงที่รูปแบบการใช้งาน มีรูปแบบเดียวคือต้องใช้ในแบบ text เท่านั้น ไม่สามารถใช้ในแบบกราฟิกได้ บริการอะไรก็ตามในอินเตอร์เน็ตก็ตามที่เป็นมีลักษณะการใช้งาน เป็นแบบกราฟิก จะใช้ไม่ได้ในการเชื่อมต่อวิธีนี้ เช่น Web เป็นต้น ส่วนบริการที่มีลักษณะการใช้งานเป็น text ย่อมสามารถใช้ในการติดต่อวิธีนี้ได้ เช่น จดหมายอิเล็คโทรนิคส์ (E-mail) เป็นต้น ดังนั้นบางแห่งจึงเรียกการเชื่อมต่อวิธีนี้ว่า การติดต่อแบบไปรษณีย์เท่านั้น (E-mail Only Connection)sirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-27488223286045047602011-09-06T05:22:00.000-07:002011-09-06T05:22:18.785-07:00การทำงานของอินเทอร์เน็ต<span class="Apple-style-span" style="background-color: white;"><span class="Apple-style-span" style="color: #9933cc;"><b> </b></span>การสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะมีโปรโตคอล(Protocol)ซึ่งเป็นระเบียบวิธีการสื่อสารที่เป็นมาตรฐานของ การเชื่อมต่อกำหนดไว้โปรโตคอลที่เป็นมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคือTCP/IP (TransmissionContro Protocol/InternetProtocol) เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจะต้องมีหมายเลข ประจำเครื่องที่เรียกว่า IP Address เพื่อเอาไว้อ้างอิงหรือติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆในเครือข่าย ซึ่ง IP ในที่นี้ก็คือ Internet Protocolตัวเดียวกับใน TCP/IP นั่นเอง IP address ถูกจัดเป็นตัวเลขชุดหนึ่งขนาด 32 บิต ใน 1 ชุดนี้จะมีตัวเลขถูกแบ่งออกเป็น4ส่วนส่วนละ8บิตเท่าๆกันเวลาเขียนก็แปลงให้เป็นเลขฐานสิบก่อนเพื่อความง่าย<br />
แล้วเขียนโดยคั่นแต่ละส่วนด้วยจุด (.) ดังนั้นในตัวเลขแต่ละส่วนนี้จึงมีค่าได้ไม่เกิน 256 คือตั้งแต่ 0 จนถึง 255เท่านั้นเช่นIPaddressของเครื่องคอมพิวเตอร์ของสถาบันราชภัฎสวนดุสิตคือ203.183.233.6ซึ่งIPAddressชุดนี้ จะใช้เป็นที่อยู่เพื่อติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆในเครือข่ายโดเมนเนม (Domainnamesystem:DNS) เนื่องจาก การติดต่อสื่อสารกันกันในระบบอินเตอร์เน็ตใช้โปรโตคอลTCP/IPเพื่อสื่อสารกันโดยจะต้องมีIPaddressในการอ้างอิงเสมอ แต่ IP address นี้ถึงแม้จะจัดแบ่งเป็นส่วนๆแล้วก็ยังมีอุปสรรคในการที่ต้องจดจำถ้าเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายมีจำนวนมากขึ้นการจดจำหมายเลขIPดูจะเป็นเรื่องยากและอาจสับสนจำผิดได้ แนวทางแก้ปัญหาคือการตั้งชื่อหรือตัวอักษรขึ้นมาแทนที่ IP address ซึ่งสะดวกในการจดจำมากกว่า เช่น IP address คือ 203.183.233.6 แทนที่ด้วยชื่อ dusit.ac.th ผู้ใช้งานสามารถ จดจำชื่อ dusit.ac.th ได้ง่ายกว่า การจำตัวเลข โดเมนที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก ที่ถือว่าเป็นโดเมนสากล มีดังนี้ คือ<br />
. com ย่อมาจาก commercial สำหรับธุรกิจ<br />
. edu ย่อมาจาก education สำหรับการศึกษา<br />
. int ย่อมาจาก International Organization สำหรับองค์กรนานาชาติ<br />
. org ย่อมาจาก Organization สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร<br />
. net ย่อมาจาก Network สำหรับหน่วยงานที่มีเครือข่ายของ ตนเองและทำธุรกิจด้านเครือข่าย</span><span class="Apple-style-span" style="background-color: white;"><br />
<strong></strong></span><br />
<ul style="display: inline !important;"><li style="display: inline !important;"><strong><span class="Apple-style-span" style="font-weight: normal;"><strong> การขอจดทะเบียนโดเมน </strong></span></strong></li>
</ul><br />
การขอจดทะเบียนโดเมนต้องเข้าไปจะทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบชื่อโดเมนที่ขอจดนั้นไม่<br />
สามารถซ้ำกับชื่อที่มีอยู่เดิมเราสามารถตรวจสอบได้ว่ามีชื่อโดเมนนั้นๆ หรือยังได้จากหน่วยงานที่เรา<br />
จะเข้าไปจดทะเบียนการขอจดทะเบียนโดเมน มี 2 วิธี ด้วยกัน คือ<br />
1. การขอจดะเบียนให้เป็นโดเมนสากล (.com .edu .int .org .net ) ต้องขอจดทะเบียนกับ www.networksolution.com ซึ่งเดิม คือ www.internic.net<br />
2. การขอทดทะเบียนที่ลงท้ายด้วย .th (Thailand)ต้องจดทะเบียนกับ www.thnic.net โดเมนเนมที่ลงท้าย ด้วย .th ประกอบด้วย<br />
. ac.th ย่อมาจาก Academic Thailand สำหรับสถานศึกษาในประเทศไทย<br />
. co.th ย่อมาจาก Company Thailand สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจในประเทศไทย<br />
. go.th ย่อมาจาก Government Thailand สำหรับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล<br />
. net.th ย่อมาจาก Network Thailand สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจด้านเครือข่าย<br />
. or.th ย่อมาจาก Organization Thailand สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร<br />
. in.th ย่อมาจาก Individual Thailand สำหรับของบุคคลทั่วๆไปsirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-7437989994864534477.post-40793536860105249252011-08-31T05:04:00.000-07:002011-09-14T22:35:45.497-07:00บทที่ 3 เรื่อง อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน<ul><li style="text-align: left;"><span class="Apple-style-span" style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f; font-family: inherit;"><a href="http://sirawitgod.blogspot.com/2011/09/blog-post_14.html">ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต</a></span></li>
<li style="text-align: left;"><span class="Apple-style-span" style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f; font-family: inherit;"><a href="http://sirawitgod.blogspot.com/2011/09/blog-post.html">การทำงานของอินเทอร์เน็ต</a></span></li>
<li style="text-align: left;"><span class="Apple-style-span" style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f; font-family: inherit;"><a href="http://sirawitgod.blogspot.com/2011/09/blog-post_07.html">การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต</a></span></li>
<li style="text-align: left;"><span class="Apple-style-span" style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f; font-family: inherit;"><a href="http://sirawitgod.blogspot.com/2011/09/blog-post_4262.html">การใช้บริการต่างๆบนอินเทอร์เน็ต</a></span></li>
<li style="text-align: left;"><span class="Apple-style-span" style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f; font-family: inherit;"><a href="http://sirawitgod.blogspot.com/2011/09/blog-post_2272.html">คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต</a></span></li>
<li style="text-align: left;"><span class="Apple-style-span" style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f; font-family: inherit;"><a href="http://sirawitgod.blogspot.com/2011/09/blog-post_537.html">มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต</a></span></li>
<li style="text-align: left;"><span style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f;"><a href="http://sirawitgod.blogspot.com/2011/09/blog-post_3832.html">คำถามประจำหน่วยการเรียนรู้</a></span></li>
<li style="text-align: left;"><span style="background-color: #fff2cc; color: #6aa84f;"></span></li>
</ul><div style="text-align: left;"></div>sirawitgodhttp://www.blogger.com/profile/04358518777036595822noreply@blogger.com1